ดูดไขมันหน้าท้อง ช่วยแก้ปัญหาพุงยื่น สำหรับคุณแม่มือใหม่
ปัญหากวนใจที่คุณแม่ทุกคนต้องเจอทุกครั้งหลังคลอด คือ พุงคุณแม่หลังคลอด หรือ Mommy Tummy ซึ่งมีลักษณะหน้าท้องย้วย หน้าท้องยื่น หรือหน้าท้องไม่เล็กลงใช่ไหมคะ ในบางคนหน้าท้องกว่าจะยุบลง กว่าจะเรียบเนียนเหมือนก่อนท้องก็ใช้เวลานานเหลือเกิน บางคนใช้เวลาหลายเดือน บางคนใช้เวลาเป็นปี หรือบางคนลดหน้าท้องได้จริงแต่พุงกลับยื่นเหมือนเดิม ไม่กระชับเหมือนก่อนคลอด ไม่ว่าจะควบคุมอาหาร จะออกกำลังกายอย่างมีวินัยมากแค่ไหนก็ตามก็ยังคงไม่เห็นผล
พุงคุณแม่หลังคลอด คืออะไร?
พุงคุณแม่หลังคลอด (Mommy Tummy) เกิดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก สาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อที่บริเวณหน้า (Rectus Abdominis) หรือที่เราเรียกกันว่า ซิกแพค (Six Pack) แยกออกจากกัน โดยเกิดจากการตั้งครรภ์ ส่งผลให้หน้าท้องบริเวณฝั่งซ้ายและบริเวณฝั่งขวา ที่ถูกห่อหุ้มโดยเนื้อเยื่อคอลลาเจนแยกออกจากกัน ถึงแม้ว่าคุณแม่จะคลอดลูกเรียบร้อยแล้วก็ตาม กล้ามเนื้อหน้าท้องก็ยังคงแยกออกจากกันเหมือนเดิม นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคลอดลูกแล้วคุณแม่หลายๆ คนจึงมีพุงอยู่
นอกจากกล้ามเนื้อท้องแยกออกจากกันจนทำให้เกิดพุงคุณแม่หลังคลอดแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้คุณแม่หลังคลอด มีปัญหาพุงยื่น พุงย้วย มากวนใจ
- การกินตามใจปาก ไม่ว่าจะระหว่างตั้งครรภ์หรือหลังตั้งครรภ์ เมื่อกินอาหารตามใจปากมากเท่าไร ไขมันยิ่งสะสมในช่องท้องมากขึ้นเท่านั้น
- พักผ่อนไม่เพียงพอ คุณแม่ส่วนใหญ่ต้องเจอกับปัญหานอนไม่หลับในระหว่างการตั้งครรภ์ ส่งผลให้กระบวนการเผาผลาญร่างกายทำงานผิดปกติ คุณแม่จึงรู้สึกหิวบ่อย และทานมากกว่าปกตินั่นเอง
- ความเครียด เมื่อเกิดความเครียดร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ที่จะกระตุ้นความหิว กระตุ้นความอยากอาหารเพิ่มมากขึ้น
- พฤติกรรมการดำรงชีวิต
ดูดไขมันหน้าท้อง แก้ปัญหาพุงย้วย พุงยื่น ของคุณแม่หลังคลอดอันตรายหรือไม่
ดูดไขมันหน้าท้อง เป็นการกำจัดไขมันด้วยวิธีทางการแพทย์ที่ได้การยอมรับในระดับสากล ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับการดูดไขมันหน้าท้องนั้น มีความปลอดภัยที่สูงอย่างมาก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ มีความแม่นยำและก่อให้เกิดความสูญเสียน้อยมากๆ ยิ่งทำการดูดไขมันกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์ตรงในด้านนี้มายาวนาน ยิ่งไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายต่อร่างกายเลย เพราะแพทย์สามารถทำการประเมิน ทำการรักษาคนไข้ให้เหมาะสมในแต่ละเคส เหมาะสมต่อสภาพร่างกาย และสภาพจิตใจของคนไข้
วิธีดูดไขมันหน้าท้องที่ได้มาตรฐานและได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีดังนี้
1. ดูดไขมันหน้าท้องด้วย PLASMA JET
เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการกระชับผิวให้เรียบตึง เรียบเนียน หลักการทำงานของเครื่อง PLASMA JET จะมีการใช้คลื่นความถี่วิทยุกับพลาสม่าฮีเลี่ยม ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนหลังทำ ส่งผลให้ผิวกระชับตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เห็นผลนานไม่ต้องทำซ้ำ
2. ดูดไขมันหน้าท้องด้วย VASER
การดูดไขมันหน้าท้องด้วย VASER เป็นเครื่องดูดไขมันที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ในการสลายไขมันให้มีการแตกตัวเป็นของเหลว วิธีการนี้เป็นวิธีการดูดไขมันที่ค่อนข้างปลอดภัย เสียเลือดน้อย มีรอยฟกช้ำน้อย แผลที่ได้มีขนาดเล็ก
3. ดูดไขมันหน้าท้องด้วย ULTRA Z
การดูดไขมันหน้าท้องด้วย ULTRA Z ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์หรือคลื่นความถี่สูง ในการสร้างความร้อนเพื่อสลายไขมัน เป็นวิธีที่สามารถดูดไขมันได้ปริมาณมาก แถมยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และช่วยกระชับผิวในเวลาเดียวกัน
4. ดูดไขมันหน้าท้องด้วย BODY-JET
การดูดไขมันด้วย BODY-JET เป็นวิธีการดูดไขมันที่ได้รับความนิยมมากๆ การทำงานของเครื่องนี้จะทำการปล่อยคลื่นวิทยุออกมาเพื่อทำการสลายไขมัน ทำให้ไขมันดูดออกมาง่าย เสียเลือดน้อย มีรอบฟกช้ำน้อย แผลมีขนาดเล็ก ไม่ต้องพักฟื้นนาน BODY-JET เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันที่สามารถกระชับผิว และกำจัดเซลลูไลท์ได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้ผิวที่ได้ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
5. ดูดไขมันหน้าท้องด้วย MicroAire PAL
เป็นวิธีการดูดไขมันที่ไม่อันตรายต่อเซลล์ผิว เพราะไม่ใช้ความร้อนในการสลายไขมัน แต่ใช้แรงสั่นสะเทือนในการเพิ่มความถี่ของการขยับเข็มที่ใช้ในการดูดไขมัน ทำให้ดูดไขมันได้ปริมาณมาก ใช้เวลาไม่นาน เกิดการเจ็บปวดน้อย เมื่อเสร็จสิ้นการดูดไขมันแล้วสามารถกลับบ้านได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
สนใจดูดไขมันกระชับหน้าท้อง หรือดูดไขมันเฉพาะส่วน สามารถทำการสอบถาม หรือปรึกษาได้ที่ Body Fat Center ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยวิสัญญีแพทย์ดูดไขมันที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี