หน้าแรก » ดูดไขมัน » ทำความรู้จักโรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder)

“โรคกินไม่หยุด” ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพอย่างไร?

ใครที่มักถูกทักว่า “ตัวเล็กแค่นี้ทำไมกินเยอะจังเลย” หรือ “ทำไมกินไม่อิ่มสักที” คุณไม่ควรชะล่าใจจนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ หรือเป็นพฤติกรรมการกินที่ปกติที่เกิดจากความหิว เพราะการทานไม่หยุดไม่อิ่มสักที อาจจะเป็นสัญญาณอันตรายของ “โรคกินไม่หยุด” ที่ปล่อยทิ้งไว้อาจจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมามากมาย ซึ่งโรคชนิดนี้จะมีอาการแบบไหน สังเกตได้อย่างไร รักษาได้อย่างไรนั้น เราไปดูกันเลยค่ะ

โรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder) คืออะไร?

โรคกินไม่หยุด (BED) คือ อาการของคนที่สามารถรับประทานอาหารในปริมาณที่มากกว่าปกติ โดยที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะทานอาหารได้ปริมาณมากถึงแม้ว่าจะไม่รู้สึกหิว และจะทานจนกว่าจะรู้สึกอิ่มจนไม่สามารถรับประทานอาหารประเภทอื่นๆ ได้ เป็นโรคที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย มีสาเหตุการเกิดไม่ค่อยแน่ชัด

กินแบบไหนถึงเรียกว่าโรคกินไม่หยุด

  • กินอาหารในปริมาณมากต่อเนื่องกันอย่างน้อย 3 เดือน
  • กินในปริมาณทั้งที่ไม่รู้สึกหิว
  • ควบคุมปริมาณการทานไม่ได้
  • กินเสร็จแล้วรู้สึกผิด โกรธ เศร้าในตัวเอง
  • กินเยอะในเวลาที่รวดเร็ว
  • ชอบกักตุนอาหารไว้ใกล้ตัว

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกินไม่หยุด

ในปัจจุบันโรคกินไม่หยุดยังมีสาเหตุการเกินที่ไม่แน่ชัด แต่คาดว่ามีหลากหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคชนิดนี้ ดังนี้

  • เกิดจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เหตุการณ์ถูกทำร้าย หรือการสูญเสียคนในครอบครัว
  • เกิดจากการโดนทักว่าอ้วน โดนล้อ หรือบูลลี่จนสูญเสียความมั่นใจ
  • เกิดจากฮอร์โมนที่ควบคุมความหิว เช่น ฮอร์โมนเลปติน ฮอร์โมนเลปติน ฯลฯ หลั่งออกมามากเกินไป ส่งผลให้รู้สึกหิว รู้สึกอยากอาหารตลอดเวลา
  • เกิดจากโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรคเครียด ฯลฯ
  • คนในครอบครัวมีประวัติป่วยเกี่ยวกับโรคกินไม่หยุด

อันตรายที่เกิดจากโรคกินไม่หยุด

การป่วยเป็นโรคกินไม่หยุดนอกจากจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงต่างๆ ดังนี้

  • โรคอ้วน
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • โรคเบาหวาน
  • ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
  • โรคหัวใจ
  • โรคซึมเศร้า
  • ฯลฯ

วิธีการรักษาโรคกินไม่หยุด

สำหรับวิธีการรักษาโรคกินไม่หยุดนั้น แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียด เพื่อที่จะได้วินิจฉัยสาเหตุของโรคได้อย่างแม่นยำ จะได้เลือกวิธีการรักษาที่ดีและปลอดภัยมากที่สุด ดังนี้

  • การใช้ยา: เป็นการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง
  • การทำจิตบำบัด: เป็นการรักษาที่ช่วยให้คนไข้เรียนรู้สาเหตุ อาการ และวิธีรับมือต่อโรคได้อย่างถูกต้อง
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง:
    • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวลได้เป็นอย่างดี
    • ควบคุมปริมาณการทานอาหาร ช่วยในการปรับพฤติกรรมการทานอาหาร และช่วยในการลดน้ำหนักให้ดีขึ้น

สำหรับผู้ป่วยโรคกินไม่หยุดคนไหนที่สามารถรักษาและปรับพฤติกรรมการกินกลับมาเป็นปกติ โดยที่ไม่มีโรคแทรกซ้อนใดๆ แต่หุ่นหรือรูปร่างยังไม่กลับมาเหมือนเดิม อยากหุ่นลีน หุ่นสวยเหมือนวันวาน สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการดูดไขมัน ซึ่งเป็นวิธีกระชับหุ่น กระชับสัดส่วนแบบเร่งด่วน ช่วยให้หุ่นสวยมีกล้าม มีซิกแพค หรือร่อง 11 ในระยะเวลาที่รวดเร็ว

Body Fat Center ผู้ให้บริการด้านดูดไขมัน ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านดูดไขมันที่มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี ที่มากับเครื่องดูดไขมันนวัตกรรมสุดล้ำสมัยอย่าง Bodytite และ PAL ที่ช่วยดูดไขมันได้อย่างตรงจุด พร้อมกับยกกระชับไปในตัว ทำให้บริเวณที่ดูดไขมันมีความเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ แผลเล็ก รอบบวมช้ำน้อย ผิวไม่เป็นคลื่น และไม่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะที่อยู่รอบๆ แม้แต่นิดเดียว นอกจากนี้แล้วยังใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นานอีกด้วย

ติดต่อเรา