หน้าแรก » ดูดไขมัน » ปรับรูปหน้าให้สวย ลดเหนียง ให้เรียวกระชับ ด้วยการดูดไขมัน
แก้ปัญหาคาง 2 ชั้น ด้วยการดูดไขมันเหนียง

ปรับรูปหน้าให้สวย เรียวกระชับ แก้ปัญหาคาง 2 ชั้น ด้วยการดูดไขมันเหนียง

เหนียง หรือคาง 2 ชั้น (Double Chin) เกิดจากการสะสมไขมันที่บริเวณใต้คางมากเกินปกติ สามารถพบได้ทุกเพศ ทุกวัย ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพร่างกาย และพฤติกรรมการใช้ชีวิต การเกิดเหนียง หรือคาง 2 ชั้น ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่ส่งผลต่อการดำรงชีวิต เพราะความมั่นใจในรูปร่างของตัวเองที่จะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ จนหมดความมั่นใจตนเอง ถ้าหากไม่รีบทำการรักษา

คาง 2 ชั้น / เหนียง เกิดจากอะไร

ในสภาวะปกติของร่างกายที่ไม่มีเหนียง ไม่มีคาง 2 ชั้น มุมระหว่างคางและคอไม่ควรเกิน 120 องศา ใบหน้าถึงจะดูเล็กไม่มีเหนียง ดูสวยงาม และดูอ่อนเยาว์ ไม่ว่าจะดูมุมไหนก็ดูสวย แน่นอนว่าใบหน้าแบบนี้ย่อมเป็นใบหน้าที่สาวๆ ทุกคนชื่นชอบและต้องการ

สำหรับเหนียง หรือ คาง 2 ชั้น ทำให้ใบหน้าดูใหญ่ ใบหน้าดูกลม ดูคอสั้น ดูอายุมากกว่าวัย เพราะเหตุนี้เอง “เหนียง” จึงเป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนไม่ชอบ แต่การเกิดเหนียงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยับยั้งได้ ไม่ว่าคุณจะดูแลตัวเองดีแค่ไหนก็ตาม เพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดเหนียง หรือคาง 2 ชั้น มีหลายปัจจัย ดังนี้

  • เกิดจากผิวหนังที่หย่อนคล้อยจากอายุที่มากขึ้น หรือความเสื่อมสภาพของผิวหนังแต่ละคน มีสาเหตุมาจากเส้นเอ็นแนวกรามเกิดการหย่อนยาน และขนาดของกระดูกกรามที่เล็กลง
  • เกิดจากการสะสมไขมันชั้นตื้น (Subcutaneous Fat) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “ไขมันที่ใต้ผิวหนัง” และการสะสมไขมันที่ไขมันชั้นลึก (Subplatysmal Fat) ซึ่งเป็นไขมันที่วางอยู่ต่อจากบริเวณชั้นกล้ามเนื้อ Platysma คอ
  • เกิดจากกล้ามเนื้อ Platysma ที่บริเวณคอเกิดการหดตัวและขยายขนาดจากเดิม
  • เกิดจากคางที่เล็กและหุบ สามารถเกิดได้จากหลายๆ สาเหตุ เช่น อุบัติเหตุ อายุมากขึ้น เป็นต้น
  • เกิดจากตำแหน่งของกระดูกไฮออย (Hyoid Bone) อยู่ผิดตำแหน่งจากที่ควรอยู่
สาเหตุของการเกิดเหนี่ยง (คาง 2 ชั้น)

เหนียง หรือคาง 2 ชั้น เกิดได้จากหลากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดเหนียง หรือคาง 2 ชั้น ก็คงหนีไม่พ้นการสะสมของไขมันนั่นเอง สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เป็นเพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้หลายคนมีพฤติกรรมการกินอาหารที่ตามใจปาก หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เน้นความสะดวกสบาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเหนียง เช่น การนอนคว่ำเล่นมือถือ เป็นต้น เหนียงจากการสะสมไขมันสามารถรักษาให้หายได้โดยการออกกำลังกาย พร้อมกับควบคุมอาหารไปพร้อมๆ กัน แต่ถ้าใครพยายามแล้วแต่ไม่เห็นผล สามารถใช้วิธีดูดไขมัน เพื่อกำจัดเหนียงได้

ผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมันเหนียงมีใครบ้าง?

  • ผู้ที่เคยตัดกรามมาก่อน เพราะคนกลุ่มนี้จะมีปัญหาคางยื่นจนฟันไม่ชนกัน
  • ผู้ที่มีภาวะอ้วน จนทำให้เกิดการสะสมไขมันที่บริเวณใต้คางจำนวนมาก
  • ผู้ที่ใบหน้าดูกลม การดูดไขมันเหนียงสามารถช่วยในการปรับรูปหน้าให้สวย เรียวกระชับได้
  • ผู้ที่มีอายุมาก เพราะคนกลุ่มนี้จะเจอกับปัญหาผิวหนังเสื่อมสภาพหรือหย่อนยานนั่นเอง

ดูดไขมันเหนียง (Double chin liposuction) สามารถทำได้กี่วิธี

ดูดไขมันเหนียง คือ การสลายไขมันส่วนเกินที่อยู่บริเวณใต้คางโดยการดูดไขมัน เพื่อใบหน้าที่ดูเรียวสวย ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น การดูดไขมันเหนียงเป็นวิธีสลายไขมันที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของแพทย์ค่อนข้างสูง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเข้าดูดไขมันเหนียงควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีและความปลอดภัยของคุณเอง สำหรับเครื่องดูดไขมันกำจัดเหนียงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีดังนี้

1. สลายไขมันเหนียงด้วยเครื่อง BodyTite

เป็นเครื่องสลายไขมันด้วยคลื่นวิทยุ สุดยอดนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก เป็นเครื่องที่สามารถทำงานได้แบบ 2 in 1 คือ สามารถสลายไขมันและกระชับผิวได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้ผิวที่ได้มีความเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ แถมมีผลข้างเคียงน้อยมากๆ อีกด้วย

BodyTite by inmode

2. สลายไขมันเหนียงด้วยเครื่อง Vaser

เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ในปัจจุบัน ที่ใช้พลังงานคลื่นเสียง (Ultrasound) ในการสลายเซลล์ไขมันให้กลายเป็นของเหลว เพื่อให้ง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย การดูดไขมันวิธีนี้เป็นวิธีที่ทำให้เกิดการบวมหรือรอยช้ำต่างๆ หลังดูดไขมันน้อยมากๆ แถมยังเป็นวิธีที่ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็วอีกด้วย

vaser

3. สลายไขมันเหนียงด้วยเครื่อง BodyJet

เป็นเครื่องดูดไขมันที่ใช้พลังงานน้ำในการแยกชั้นไขมันให้ออกจากเนื้อเยื่อ ทำให้การดูดไขมันด้วยวิธีนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ประเภท และเนื้อเยื่ออื่นๆ บริเวณข้างเคียง BodyJet เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันเดียวในปัจจุบัน ที่สามารถนำไขมันที่ดูดออกมาไปทำ Fat Transfer ต่อได้

body jet

Bodyfat Center โรงพยาบาลดูดไขมันชั้นนำของไทย ที่เน้นในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย ด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล American Accreditation Commission International (AACI) พร้อมการดูแล การให้คำปรึกษาด้วยแพทย์ที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี

ติดต่อเรา