หน้าแรก » ดูดไขมัน » ออกกำลังกาย ทำไมน้ำหนักจึงไม่ลด

ลดน้ำหนักและออกกำลังกายมานาน ทำไมไม่ผอมสักที

ออกกำลังกาย น้ำหนักไม่ลด

พุง หรือไขมันหน้าท้อง ทำไมจึงลดยากกว่าบริเวณอื่น

พุงหรือไขมันหน้าท้อง โดยทั่วไปแล้วเราจะมีไขมันบริเวณหน้าท้องกันทุกคน ประกอบไปด้วย ไขมันในใต้ชั้นผิวหนัง กล้ามเนื้อท้องและไขมันช่องท้อง โดยมากที่ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องจนเกิดเป็นพุงนั้น จะสะสมบริเวณไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งเมื่อเราออกกำลังกายหรือกำจัดไขมันบริเวณนี้ไปได้ก็จะทำให้เห็นกล้ามเนื้อท้องได้อย่างชัดเจน

ไขมันส่วนต่างๆ ในช่องท้อง

ไขมันที่เกาะจับใต้ผิวหนังจนกลายเป็น “พุง” แบ่งได้เป็น 5 ประเภท

ลักษณะของพุง
  1. พุงป่อง หรือ Bloated Tummy พุงที่เกิดจากการทานอาหารมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ เช่น แป้ง นม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พุงลักษณะนี้ย่อยสลายได้ง่ายเพียงลดการทานอาหารเหล่านี้ก็สามารถทำให้ไขมันลดลงได้ 
  2. พุงเป็นชั้น หรือ Spare Tyre Tummy พุงที่เกิดจากการทานอาหารรสจัด เช่น เค็ม หวาน และของทอด ในจำนวนมากและไม่ค่อยออกกำลังกาย สารอาหารเหล่านั้นจึงถูกแปรสภาพเป็นไขมันและจับเกาะบริเวณพุงทำให้มีลักษณะเป็นก้อนหนา 
  3. พุงความเครียด หรือ Stress Tummy พุงที่เกิดจากฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งฮอร์โมนนี้จะเป็นไขมันที่ย่อยสลายได้ยากและยังกระตุ้นให้ร่างกายต้องการน้ำตาล ของมัน ขนม ของทอด เมื่อทานเข้าไปก็ยิ่งทำให้ไขมันสะสมจนทำให้ท้องบวมสะสมมากยิ่งๆ ขึ้นไป
  4. พุงช่วงล่าง หรือ Little Pooch พุงหรือชั้นไขมันนี้ถูกสะสมในเวลานานหลายปีไม่มีการดูแลเพื่อลดไขมันช่วงนี้ หรือการออกกำลังกายที่ไม่เกิดการเผาผลาญทำให้ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องช่วงล่างนั่นเอง 
  5. พุงคุณแม่หลังคลอด หรือ Mommy Tummy พุงคุณแม่หลังคลอดหรือเกิดจากการที่มดลูกยังไม่เข้ารูป พุงลักษณะนี้จะสามารถค่อยๆ ยุบตัวไปได้เองและจะเห็นผลได้เร็วยิ่งขึ้นเมื่อคุมอาหารและออกกำลังกายร่วมกัน

ทำไมออกกำลังกายมานานแต่ไม่ผอมสักที

1. ใช้เวลาน้อยเกินไป

การออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายเผาผลาญควรให้เวลาอย่างน้อย 30 นาที และถ้าจะให้ดีควรให้มีเหงื่อออกและรู้สึกเหนื่อย เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่ช่วงเผาผลาญเพื่อขับไขมันที่สะสมออกมา ไม่จำเป็นต้องออกหนัก ใช้แรงเยอะ อาจเป็นการเดินเบาๆ ก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและวัย

การออกกำลังกายก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับร่างกายเพื่อไม่ให้ร่างกายเครียดมากเกินไปจนทำให้เกิดฮอร์โมนคอร์ติซอล ( Cortisol ) มากเกินไป เพราะหากหลั่งออกมามากก็จะไปสลายกล้ามเนื้อท้องทำให้ไขมันไปกองอยู่ที่พุงช่วงล่างนั่นเอง

การออกกำลังกายก็ควรเลือกผสมผสานระหว่างเบิร์นเพื่อเผาผลาญไขมันและการสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและกระชับมากยิ่งขึ้น

2. ไม่ได้ควบคุมอาหาร

หลายคนเข้าใจว่า ออกกำลังกายแล้ว ก็สามารถทานทุกอย่างตามต้องการได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิดแปลก แต่หากคุณต้องการควบคุมน้ำหนักและอย่างมีรูปร่างที่ดีขึ้น การคุมอาหารที่ดี เช่น 

  • เลือกทานเฉพาะไขมันดี เช่น omega 3  จะช่วยลดไขมันหน้าท้องได้เป็นอย่างดี
  • ผักผลไม้ หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูง
  • คาร์โบไฮเดรต 
  • เนื้อไก่ 
  • แป้ง 
  • ฯลฯ

ทั้งนี้การทานนั้นก็ควรรับประทานในจำนวนที่เพียงพอต่อร่างกาย ไม่มากไปและไม่น้อยไป การทานน้อยจะทำให้ร่างกายโหยอาหารมากผิดปกติ และทำให้ระบบการทำงานผิดปกติ และควรหลีกเลี่ยงการทานน้ำตาล น้ำอัดลม อาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป บะหมี่สำเร็จรูป ของทอด ของมัน อาหารปิ้งย่าง ขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ ด้วยเช่นกัน

3. การพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับนั้นเป็นการช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมฟื้นฟูและเผาผลาญแคลอรีได้อย่างดี ดังนั้น ออกกำลังกายแล้ว ผ่อนคลายแล้ว อิ่มเอมแล้ว ก็ควรหาเวลาพักผ่อนด้วยเช่นกัน

4. การดื่มน้ำให้เพียงพอ

น้ำจะช่วยขับส่วนเกิน ของเสียและโซเดียมออกจากร่างกาย การดื่มน้ำจึงช่วยให้เผาผลาญได้ดี และยังช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดี ไม่โทรมอีกด้วย

อยากผอม ไม่ใช่เพียงแค่ขยับร่างกายแต่ต้องทำให้เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอและมีจุดเป้าหมายที่ดี มีวินัยในการใช้ชีวิตร่วมด้วย จึงจะทำให้คุณน้ำหนักลดอย่างมีสุขภาพดี เราจะพบบ่อยให้ผู้ที่อยากผอม แต่ไม่ออกกำลังกายเลย ร่างกาย ผิวพรรณ ใบหน้า ก็จะซูบซีดไม่สวยงาม รูปร่างที่ดีมาพร้อมกับความกระชับ เผยไม่เห็นกล้ามเนื้อตึงสวยและไม่มีเนื้อย้วยๆ จับแล้วนิ่ม ที่สำคัญสุขภาพต้องดี จึงส่งเสริมให้คุณมีบุคลิกที่ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เข้ามาช่วยดูแลปัญหาเหล่านี้ให้มีรูปร่างสวย กระชับและกำจัดไขมันหน้าท้องอย่างเร่งด่วนได้ เช่น การดูดไขมันหน้าท้อง กระชับสัดส่วนที่มีความปลอดภัยสูง

ดูดไขมันหน้าท้อง ลดกระชับปรับรูปร่างเห็นผลลัพธ์ชัดเจน

เห็นผลชัดเจนและรวดเร็ว โดย Bodyfat ดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์กว่า 23 ปี เทคนิคเฉพาะแพทย์ที่ช่วยให้เกิดความแม่นยำ เจ็บน้อยและดูแลรูปร่างให้สมส่วนเฉพาะบุคคลโดยแพทย์จะดีไซน์ร่วมกับคนไข้เพื่อให้เกิดการเห็นผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างชัดเจน และยังวิเคราะห์ร่วมกับไลฟ์สไตล์เฉพาะบุคคลเพื่อให้ปรับพฤติกรรมในการดูแลตัวเองน้อยที่สุด เทคนิคการดูดไขมันหน้าท้อง จึงได้ผลเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการลดไขมันหน้าท้อง เช่น

1. เมโสแฟตกระชับสัดส่วน

2. นวดยกกระชับสัดส่วน

3. Thermal FLX

4. Ultraformer III

5. CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

หากคุณกำลังกังวลกับการออกกำลังกายในเวลานานแต่น้ำหนักไม่ลด รูปร่างไม่กระชับ สามารถปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญของเราได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจและเลือกรูปแบบการกำจัดไขมันในการปั้นหุ่น

ติดต่อเรา