ปัญหาขาเบียด ขาหนีบเสียดสี ต้องรีบแก้ไขก่อนขาหนีบดำจนสูญเสียความมั่นใจ
ปัญหาขาเบียด ขาหนีบใหญ่ อาการขาหนีบเสียดสี สามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย ปัญหานี้อาจจะเป็นปัญหาเล็กสำหรับคนขาสวย ขาเรียว มีไขมันสะสมน้อย แต่จะเป็นปัญหาใหญ่โลกแตกทันทีถ้าหากเกิดกับคนที่มีต้นขาใหญ่ เนื่องจากขาใหญ่ ขาเบียด ไม่ได้ทำให้คนที่ชื่นชอบการใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงขาสั้น เสียความมั่นใจในรูปร่างและการแต่งตัวเท่านั้น เพราะปัญหาขาเบียดยังทำให้เสี่ยงต่อการทำให้ขาหนีบดำ ขาหนีบแดง หรือขาหนีบเป็นแผลได้ด้วย ถ้าหากไม่รีบแก้ไข!
การที่บริเวณขาหนีบของคนเราจะดำ แดง หรือมีรอยแผลเป็นนั้นเกิดจากหลากหลายสาเหตุ การจะแก้ไขปัญหาขาหนีบเสียดสีให้ถูกต้องและเห็นผลมากที่สุด ก็จะต้องแก้ปัญหาให้ตรงกับต้นเหตุที่ก่อให้เกิดขาหนีบดำ รอยแดง หรือรอยแผลเป็น และในวันนี้ Body Fat Center จะพาคุณมารู้จักกับสาเหตุที่ทำให้ขาหนีบดำและวิธีการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด พร้อมกับวิธีรักษาขาหนีบให้กลับมาขาวดังเดิม
ขาหนีบ คืออะไร? อยู่ที่บริเวณไหน?
ขาหนีบ เป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหุบสะโพก (hip adductor muscle) อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างกระดูกเชิงกรานและหัวเข่า ขาหนีบถือว่าเป็นกล้ามเนื้อที่มีความยืดหยุ่นสูง และเป็นส่วนที่เกิดไขมันส่วนเกินสะสมได้ง่าย แต่กลับลดได้ยาก ทำให้บริเวณขาหนีบเกิดการเสียดสีจนทำให้ขาหนีบดูดำคล้ำ มีรอยแดง หรือรอยแผลเป็นเกิดขึ้น
สาเหตุที่ทำให้ขาหนีบเกิดการเสียดสี
1. การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น
การสวมเสื้อผ้าที่มีความคับแน่นเกินไปไม่ว่าจะกางเกง กระโปรง หรือกางเกงซับในทุกชนิด ก็ทำให้ผิวหนังบริเวณต้นขาเกิดการเสียดสี จนทำให้บริเวณต้นขาเกิดดำ แดง หรือมีรอยแดงเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน
2. ไขมันสะสมบริเวณต้นขา
คนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน หรือมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 23 จะมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ในร่างกายค่อนข้างมาก ทำให้บริเวณต้นขามีช่องว่างระหว่างขาหนีบหายไป ส่งผลให้เวลาเดิน วิ่ง ขาหนีบเกิดการเสียดสีจนก่อให้เกิดอาการเจ็บ
3. ภาวะโรคอ้วน
ปัญหาภาวะโรคอ้วนนอกจากจะส่งผลกระทบต่อเรื่องปัญหาสุขภาพแล้ว ยังทำให้คนกลุ่มนี้มีรูปร่างที่ค่อนข้างใหญ่ และก่อให้เกิดปัญหาขาหนีบเสียดสีอีกด้วย สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เป็นเพราะว่าคนที่มีภาวะอ้วนจะมีการสะสมไขมันที่มากกว่าปกติ ส่งผลให้บริเวณต้นขาหรือบริเวณขาหนีบเกิดช่องว่างระหว่างกันน้อยลง เมื่อเดิน วิ่ง หรือลุกนั่งบ่อยๆ ย่อมทำให้บริเวณนั้นเกิดการเสียดสี
ขาหนีบเสียดสี ก่อให้เกิดผลเสียอะไรบ้าง?
- เสียความมั่นใจในการใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้น
- เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
- ทำให้ขาหนีบคล้ำเสีย
- อิสระในการแต่งตัวหายไป
- เกิดอาการเจ็บแสบบริเวณต้นขา
- รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวเมื่อขยับตัว
ขาหนีบเสียดสี แก้ไขได้อย่างไร?
หลังจากที่ทุกคนอ่านสาเหตุที่ทำให้ขาหนีบเกิดการเสียดสีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น่าจะรู้กันแล้วว่าสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ขาหนีบมีลักษณะเช่นนั้นเกิดจาก “ไขมันส่วนเกิน” ที่สะสมอยู่บริเวณต้นขา ถ้าหากอยากแก้ปัญหาขาหนีบเสียดสี จนก่อให้เกิดขาหนีบดำ ขาหนีบแดง หรือขาหนีบเกิดรอยแผล จะต้องกำจัดไขมันส่วนที่บริเวณต้นขาออกให้มากที่สุด ซึ่งวิธีกำจัดต้นขาก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี ดังนี้
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังเป็นอีกหนึ่งวิธีการลดต้นขาที่ทั้งทำง่ายและปลอดภัย แต่การออกกำลังกายนั้นไม่สามารถที่จะลดไขมันเฉพาะจุดได้ ถ้าหากการเลือกลดต้นขาด้วยการออกกำลังกายอาจจะต้องใช้ความพยายามและใช้เวลานานหลายเดือน เนื่องจากการลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายเป็นการลดน้ำหนักทั้งตัว บริเวณไหนที่มีการสะสมไขมันน้อยก็จะทำให้บริเวณนั้นดูกระชับและดูลีนเร็วกว่าส่วนอื่นๆ ซึ่งบริเวณขาหนีบที่มีไขมันส่วนเกินสะสมค่อนข้างมาก อาจจะใช้เวลานานหลายเดือนถึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร
การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวไม่สามารถช่วยให้ต้นขาของคุณกระชับขึ้นได้ ถ้าหากพฤติกรรมการทานอาหารของคุณยังเหมือนเดิม เพื่อต้นขาที่เรียวกระชับ ไม่มีรอยคล้ำ ไม่มีรอยแดง หรือไม่มีรอยแผลมากวนไป คุณควรควบคุมปริมาณอาหารที่ทานในแต่ละวันให้พอดีกับพลังงานที่ร่างกายต้องการ (BMR) พร้อมกับหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล แป้ง และไขมันสูง
ดูดไขมันต้นขา
ใครที่อยากลดไขมันเฉพาะจุด อยากลดแค่บริเวณต้นขา “ดูดไขมันต้นขา” ตอบโจทย์มากที่สุด แถมยังเห็นผลแบบเร่งด่วนอีกด้วย แต่ผลลัพธ์หลังดูดไขมันนั้นจะดีมากแค่ไหน ถูกใจคุณหรือไม่ เหมาะกับรูปร่างหรือไม่ หรือดูเป็นธรรมชาติมากแค่ไหน ก็จะต้องเลือกคลินิกดูดไขมันที่มีความน่าเชื่อถือและบริการโดยแพทย์เฉพาะทางด้านดูดไขมัน
ทำไมถึงต้องดูดไขมันที่ Body Fat Center ดีอย่างไร?
- ห้องผ่าตัดมาตรฐานโรงพยาบาล และผ่านการรับรองมาตรฐานสากล American Accreditation Commission International (AACI)
- ให้บริการโดยแพทย์มีประสบการณ์ด้านดูดไขมันกว่า 24 ปี
- มีการออกแบบรูปร่างให้เหมาะกับสรีระของคนไข้ในแต่ละคน
- ดูดไขมันด้วยเครื่อง BodyTite ร่วมกับ Microaire PAL ทำให้แผลเล็ก เลือดออกน้อย ฟื้นตัวเร็ว และสามารถดูดไขมันออกได้มากโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะที่อยู่รอบๆ