KETOGENIC DIET กินไขมันเพื่อลดไขมันอย่างไรให้ปลอดภัย
หันไปทางไหนใครๆ ก็พูดถึง “คีโต” กินคีโตแล้วดี กินคีโตแล้วผอม กินคีโตแล้วสุขภาพแข็งแรง ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่มีส่วนไหนที่ผิดเพี้ยนไป เพียงแต่อาจต้องขยายความกันสักเล็กน้อย ให้เข้าใจถึงการเลือกรับประทานอาหารแบบคีโต (keto diet) หรือ คีโตเจนิค ไดเอต (ketogenic diet)
คีโตเจนิค ไดเอต (ketogenic diet) คืออะไร
คีโตเจนิค ไดเอต (ketogenic diet) หมายถึงการเลือกทานอาหารที่เน้นไขมันชนิดดีเป็นหลัก ตามมาด้วยการทานโปรตีน และคาร์ป หรือคาร์โบไฮเดรตเพียงเล็กน้อย หรือประมาณ 5% (20-50 กรัม) โดยการเลือกทานนี้ก็จะต้องคำนวณแคลอรีที่ร่างกายควรจะได้รับในแต่ละวัน และการเผาผลาญออกไปด้วยเช่นเดียวกัน โดยเมื่อร่างกายได้รับกลูโคสจากคาร์ป (carbohydrate) ไปในปริมาณที่น้อยจากปกติที่เราทาน ร่างกายก็จะดึงไขมันที่มีในร่างกายมาเผาผลาญเป็น “สารคีโตนบอดี้ (ketone bodies) ซึ่งกระบวนการนี้เอง จะช่วยให้ร่างกายไม่โหยหาอาหาร จึงช่วยในการลดน้ำหนัก
“หัวใจหลักของการกินคีโต ก็คือ “การลดน้ำหนัก” ซึ่งการที่มีน้ำหนักตัวไม่เกินมาตรฐาน ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพ ลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน นอกจากนี้การกินคีโตยังช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวาน (บางชนิด) ควบคุมน้ำหนัก ทั้งนี้ควรได้รับคำแนะนำและควรเลือกกินคีโตอย่างถูกวิธี” พญ. พัชญา บุญชยาอนันต์
ทำไมจึงควรทานคีโต
การปรับเปลี่ยนอาหารเป็นการทานคีโต จะช่วยให้น้ำหนักลดลง (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย) และช่วยลดปริมาณไขมันสะสมในร่างกาย ถึงอย่างไรการทานคีโตก็มีผลกระทบต่อร่างกายเช่นเดียวกัน
ผลข้างเคียงจากการกินคีโต
- มีกลิ่นปาก ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนกว่าปกติ
- ไข้คีโต : วิงเวียนศีรษะ ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน
- ขาดสารอาหาร
- ท้องผูก
- หิวน้ำบ่อย
- ไม่มีสมาธิ
- สิว
ดังนั้นก็ใช่ว่า การกินคีโตนั้นจะเหมาะสมกับทุกคน โดยเฉพาะผู้มีปัญหาสุขภาพควรศึกษาข้อมูล หรือปรึกษาแพทย์เสียก่อน เพื่อไม่เป็นการกระตุ้นอาการ ความเจ็บป่วยของร่างกาย
กินคีโตอย่างไรให้ผอม
คีโต กินอะไรได้บ้าง เมื่อพูดถึงอาหารไขมันสูง หลายคนอาจเข้าใจว่า คือเนื้อติดมัน ไขมันสัตว์ เนย น้ำมัน ของทอด ในความเป็นจริงแล้ว อาหารที่มีไขมันสูงแต่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายนั้นก็คือ อาหารที่มีไขมันดี
อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น
- ปลาทะเล ปลาแซลมอน
- อโวคาโด
- น้ำมันมะกอก น้ำมันทานตะวัน น้ำมันงา
- ถั่วเหลือง
- ฯลฯ
และยังสามารถเลือกทานอาหาร เช่น
- อาหารทะเล
- ไข่
- ชีส
- น้ำมันปลา น้ำมันมะกอก
- เนยธรรมชาติ
- ฯลฯ
เสริมด้วยคาร์โบไฮเดรตจาก
- ผัก
- นมอัลมอนด์ นมมะพร้าว
- ผลไม้ตระกูลเบอรี่ต่างๆ
- เลมอน
- ฯลฯ
และอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเลยทีเดียวนั่นก็คือ
- เส้นก๋วยเตี๋ยว พาสต้า ข้าว (ทุกชนิด)
- น้ำตาล
- เบเกอรี่ต่างๆ เช่น ขนมเค้ก คุกกี้
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- นมวัว
- เนื้อสัตว์ติดมัน
- กากหมู
- น้ำมันจากสัตว์ น้ำมันแปรรูปต่างๆ
- ครีมเทียม
- ไขมันทรานส์
- ของทอด โดยเฉพาะของทอดที่ไม่เปลี่ยนน้ำมันเลย
กินคีโตกี่วันเห็นผล
ในส่วนนี้ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า การกินคีโตนั้นควรจะเห็นผลในกี่วัน เนื่องจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเลือกรับประทานอาหาร ต้องพิจารณาถึงรูปร่าง ดัชนีมวลกาย วินัยในการปฏิบัติ และอื่นๆ ดังนั้นเมื่อเลือกกินคีโตแล้ว น้ำหนักตัวอยู่ในระดับที่พอใจ ก็หันมาดูแลร่างกายในรูปแบบอื่นๆ ร่วมด้วยจึงจะเกิดผลดีอย่างต่อเนื่อง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ เช่น เลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ลดความเครียด นอนให้เร็วยิ่งขึ้น การดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน ฯลฯ ช่วยให้สุขภาพดีในระยะยาว แต่หากคุณต้องการดูแลรูปร่าง ลดไขมันสะสม กำจัดเซลลูไลท์ที่ถูกสะสมมานาน ต้องการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ผู้ป่วยบางโรคที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้ ผู้ที่ออกกำลังกายแล้วรูปร่างไม่ดีขึ้นสักที ฯลฯ แต่ต้องการมีรูปร่างที่ดีมากยิ่งขึ้น ต้องการลดไขมันต้นขา ลดไขมันส่วนเกินทั่วร่างกาย หรือเฉพาะจุด การดูดไขมันก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไร แม้ว่าจะเข้ารับบริการดูดไขมันไปแล้ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและออกกำลังกายร่วมด้วยนั่นเอง
Body Fat อันดับหนึ่งด้านการดูดไขมัน ให้บริการโดยอาจารย์แพทย์ (นพ. สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์) ให้บริการด้วยเครื่อง BodyTite และ PAL รูปร่างชัดเจนขึ้นทันทีหลังเข้ารับบริการและยังผิวเรียบเนียน กระชับ เซลลูไลท์หายไปอย่างต้องการ นอกจากนี้ยังปลอดภัยให้บริการในห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข แผลเล็ก เจ็บน้อย เห็นผลเร็ว และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นควรใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมันตามคำแนะนำของแพทย์
รัตตินันท์ (Bodyfat Center) ออกแบบเรือนร่างได้อย่างใจต้องการ