หน้าแรก » ไลฟ์สไตล์ » ลดน้ำหนักอย่างไรไม่ให้เกิดโยโย่เอฟเฟกต์ (YOYO Effect)

โยโย่เอฟเฟกต์ (YOYO Effect) คืออะไร? ทำไมคนลดน้ำหนักถึงมักมีอาการนี้

มีสาวๆ คนไหนที่มีแพลนออกงาน มีแพลนแต่งตัวสวยๆ ภายในเร็วๆ นี้ แล้วมีความรู้สึกว่าหุ่นตัวเองยังไม่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหน้าท้องยื่น แขนขาไม่กระชับ หุ่นไม่เว้าโค้ง ใส่ชุดสวยๆ มันต้องเห็นหน้าท้องยื่นออกมาแน่ๆ จึงไปหาวิธีกระชับหุ่นอย่างเร่งด่วน จนได้ไปเจอกับไอเดียลดหุ่นให้ลีนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอดอาหาร ออกกำลังกายแบบผิดๆ หรือการทานยาลดน้ำหนัก แต่กลับโดนเพื่อนๆ บอกว่าระวัง “โยโย่” จนหุ่นแย่กว่าเดิมนะ จึงเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการโยโย่ว่าเกิดขึ้นจากอะไร แล้วอะไรกระตุ้นร่างกายเกิดอาการโยโย่ ในบทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลที่น่ารู้เกี่ยวกับอาการโยโย่เอฟเฟกต์ (YOYO Effect)

อาการโยโย่เอฟเฟกต์ (YOYO Effect) คืออะไร?

โยโย่เอฟเฟกต์ คือ ภาวะของน้ำหนักตัวที่ลดๆ ขึ้นๆ อย่างรวดเร็ว และจบลงด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนที่จะทำการลดน้ำหนัก สำหรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหลังจากเกิดโยโย่นั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าคุณจะควบคุมอาหาร จะออกกำลังกายก็ไม่เห็นผลนั้น เป็นเพราะว่าร่างกายอยู่ในภาวะที่มีไขมันมากเกินไปร่วมกับมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง ส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย

สาเหตุที่ทำให้เกิดโยโย่เอฟเฟกต์

สาเหตุที่ทำให้บางคนเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ มักเกิดปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • เกิดจากการลดน้ำหนักผิดวิธี ถ้าอยากลดน้ำหนัก ลดหุ่น แน่นอนว่าวิธีที่เหมาะสมมากที่สุดก็คือ การออกกำลังกาย หลายคนที่อยากหุ่นดี อยากผอมแต่กลับไม่ออกกำลังกาย กลับหันไปพึ่งยาลดน้ำหนักแทน จึงทำให้ร่างกายบางคนเกิดการโยโย่นั่นเอง
  • เกิดจากการอดอาหาร การอดอาหารเป็นวิธีลดหุ่นที่เห็นผลลัพธ์แค่ช่วงแรกๆ เท่านั้น เพราะการอดอาหารจะทำให้มวลกล้ามเนื้อในร่างกายลดลง แถมยังทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายมีปัญหา เมื่อกลับมาทานอาหารเหมือนปกติน้ำหนักจึงเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าก่อนลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากระบบการเผาผลาญของร่างกายที่ทำงานไม่เหมือนเดิม

วิธีลดน้ำหนักแบบไหนไม่ให้โยโย่

  • ควบคุมการทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล หรือไขมันเลว
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารทอด อาหารผัด ให้ทานเป็นอาหารที่มีพลังงานต่ำแทน
  • งดการทานอาหารแบบจุกจิกในระหว่างลดน้ำหนัก ทานอาหารให้เป็นเวลา
  • ห้ามลดอาหารด้วยการอดอาหาร แม้แต่มื้อใดมื้อหนึ่ง
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน ช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกายได้
  • หลีกเลี่ยงความเครียด ความวิตกกังวล ที่ส่งผลต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย

ดูดไขมันกระชับสัดส่วน ป้องกันการเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ได้!

การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายๆ คนมีรูปร่างใหญ่ แขนใหญ่ ขาใหญ่ หน้าท้องใหญ่ มองไม่เห็นส่วนเว้าโค้งของร่างกาย ด้วยเครื่องมือดูดไขมัน BodyTite ร่วมกับ PAL ที่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินด้วยพลังงานความร้อนได้อย่างตรงจุด โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ ที่อยู่รอบๆ แม้แต่น้อย แถมหลังจากดูดไขมันแผลเป็นน้อย เลือดออกน้อย พักฟื้นไม่นาน ไม่มีปัญหาผิวเป็นริ้วคลื่น ผิวบุ๋มมากวนใจเลย

Body Fat Center ศูนย์บริการด้านดูดไขมัน ผ่าผัดกระเพาะอาหาร เพื่อหุ่นที่สวยและกระชับมากยิ่งขึ้น โดยอาจารย์แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดูดไขมันมากกว่า 24 ปี สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือรับโปรโมชั่นพิเศษ คลิกที่นี่

ติดต่อเรา