ทำไมกิน IF แล้วน้ำหนักไม่ลด รูปร่างไม่เปลี่ยนกระชับอย่างที่ต้องการ

การทำ IF (intermittent fasting) แบบถูกต้อง การเลือกทานอาหารให้ร่างกายได้สารประโยชน์ สารอาหารครบถ้วน ไม่งดอาหาร ทาน IF ลดน้ำหนัก ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมช่วงเวลาการรับประทานอาหารโดยช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นั่นก็คือ 16/8 หรือการรับประทานอาหารภายในระยะเวลา 8 ชั่วโมง และงดการทานอาหาร ภายในระยะเวลา 16 ชั่วโมง แต่ยังคงสามารถดื่มน้ำเปล่า หรือ ชา กาแฟที่มีส่วนผสมของน้ำตาลไซรัปได้

เช่น ตื่นนอน 07.00 น. เริ่มทานอาหารมื้อแรกในเวลา 09.00 น. ก็จะสามารถทานอาหารได้ในช่วงเวลา 09.00-16.00 น. และหลังจาก 4 โมงเย็นเป็นต้นไปก็หยุดรับประทานและจะสามารถรับประทานอาหารได้อีกครั้งในเวลา 09.00 น. วันถัดไป 

การลดน้ำหนักด้วยการกิน IF เป็นการกำหนดช่วงเวลาการอดอาหาร หรือ Fasting และช่วงเวลาการรับประทานอาหาร หรือ Feeding อย่างชัดเจน เพื่อให้ร่างกายลดปริมาณอาหาร ลดพลังงาน กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน Insulin (อินซูลิน) ช่วยให้ไขมันลด น้ำหนักลด และนอกจากนี้ร่างกายยังจะหลั่ง Growth Hormone และ Norepinephrine  อันเป็นฮอร์โมนสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน ได้เป็นอย่างดี

ข้อดีของการกิน IF (intermittent fasting)

• ช่วยลดน้ำหนัก 
• ลดปริมาณไขมันในร่างกาย
• ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น
  • เบาหวาน 
  • ความดันโลหิตสูง 
  • หลอดเลือดหัวใจ 
  • หลอดเลือดสมอง 
  • อัลไซเมอร์ 
  • ฯลฯ 
• กระตุ้นการทำงานของสมองและระบบประสาท 

กิน IF (intermittent fasting) เหมาะกับใคร

แม้ IF จะเป็นวิธีการควบคุมน้ำหนักที่ได้รับความนิยม แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะสมกับทุกคนเสมอไป ดังนั้น คุณจำเป็นต้องสำรวจสุขภาพ และกิจวัตรประจำวันด้วยเช่นกันว่าสามารถทำได้หรือไม่ ทำแล้วมีผลกระทบต่อสุขภาพไหม การกิน IF มีหลายรูปแบบ ตามความถนัดของแต่ละบุคคลแต่ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ได้แก่

1. Lean Gains ( IF 16/8) 

การกิน IF 16/8 อาจดูเหมือนทำได้ง่ายที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักด้วยการกิน IF ทำให้ต้องยกเลิกวิธีการกินรูปแบบนี้ไป ดังนั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยว่า ควรกิน IF ยังไงให้น้ำหนักลด รูปร่างเปลี่ยนอย่างที่ต้องการ 

2. Fast 5 

หรือการจำกัดชั่วโมงการรับประทานอาหารภายใน 5 ชั่วโมง และงดอาหาร 19 ชั่วโมง 

3. Eat Stop Eat 

หรือการอดอาหารตลอดทั้งวัน (24 ชั่วโมง) ซึ่งก็จะทำเพียง 1-2 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น

4. 5:2 

หรือการทานอาหาร 5 วัน และจำกัดปริมาณอาหารเลือกทานตามแคลอรีที่ร่างกายจะได้รับเป็นเวลา  2 วัน 

5. Alternate Day Fasting 

หรือการกินแบบวันเว้นวัน

กิน IF 16/8 ยังไงให้น้ำหนักลด

1. ระหว่างชั่วโมงการกินก็ไม่ควรกินทุกอย่างไม่เลือก นั่นหมายถึงว่า คุณควรควบคุมอาหารและเลือกรับประทานอาหารที่ให้พลังงาน ทานให้ครบโภชนาการ หลีกเลี่ยงการทาน แป้ง เบเกอรี่ ของทอด ของมัน น้ำตาล ของหวานต่างๆ ก็จะช่วยให้น้ำหนักลดได้เร็วมากยิ่งขึ้น 
2. ทานแต่พออิ่ม มีหลายคนที่เข้าใจว่า ในชั่วโมงการกินนั้น คุณสามารถกินอะไรก็ได้โดยไม่จำกัด จึงทำให้รีบกินและกินมากเกินความจำเป็น
3. ออกกำลังกายร่วมด้วย จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันสะสมไว้ได้ดีและยังช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ เมื่อน้ำหนักลดลง ร่างกายก็จะกระชับมากขึ้น ไม่ย้วย หย่อนยาน 
4. เข้านอนแต่หัววัน หรือไม่นอนหลัง 4 ทุ่ม การที่เข้านอนเร็ว ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ระบบภายในร่างกายก็จะซ่อมแซมตัวเอง และหลังฮอร์โมนอย่างเหมาะสม

กิน IF กินอะไรได้บ้าง 

ปัญหาอย่างหนึ่งของผู้ที่เลือกกิน IF ในการลดน้ำหนัก แต่ไม่ประสบความสำเร็จสักทีนั่นอาจเป็นเพราะคุณเลือกทานอาหารไม่ถูกต้อง ดังนั้นวันนี้เรามาดูกันว่าเมื่อตัดสินใจลดน้ำหนัก ดูแลรูปร่างด้วย IF แล้ว จะสามารถกินอะไรได้บ้าง 

เครื่องดื่ม 

• น้ำเปล่า 
• กาแฟดำ ชาดำ ไม่ใส่น้ำตาล 
• Apple cider vinegar
• น้ำเลมอน

อาหารไขมันต่ำ เช่น 

• ขนมปังโฮลวีต 
• ข้าวไรซ์เบอร์รี่
• พืชตระกูลถั่ว
• ผัก-ผลไม้น้ำตาลน้อย
• เนื้อสัตว์ชนิดไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงการทำให้สุกด้วยการทอด 

การควบคุมน้ำหนักตัวเพื่อให้ได้รูปร่าง สัดส่วนที่ต้องการ นอกจากการเลือกรับประทานอาหารแล้วยังต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกับการออกกำลังกายจึงจะทำให้คุณประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการ 

หุ่นเพรียวสวย ดูดีแบบปลอดภัย ใช้เวลาไม่นาน ดูแลด้วยเทคนิคทางการแพทย์ในการดูดไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่พยายามลดน้ำหนัก ลดไขมัน ออกกำลังกายมานานแต่น้ำหนักไม่ลด รูปร่างสัดส่วนไม่เป็นไปตามต้องการ ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือผู้ป่วยบางโรคที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้

• Facebook
• Twitter
• Line

Intermittent Fasting การทำ if ตารางกินแบบ if